- Published on
ข้อตกลงลับระหว่าง OpenAI และ Microsoft: กำไร 1 แสนล้านดอลลาร์กำหนด AGI
ข้อตกลงลับระหว่าง OpenAI และ Microsoft: กำไร 1 แสนล้านดอลลาร์กำหนด AGI
ข้อตกลงลับระหว่าง OpenAI และ Microsoft ได้กำหนดความหมายของปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (AGI) ว่าเป็นจุดที่ระบบ AI ของ OpenAI สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างน้อย 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากแนวคิดเดิมของ AGI ที่มุ่งเน้นไปที่ความฉลาดระดับมนุษย์และความสามารถในการแก้ปัญหา การกำหนด AGI ด้วยผลกำไรนี้ได้สร้างความขัดแย้งและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ OpenAI
จุดสำคัญของข้อตกลง
- AGI ถูกกำหนดโดยผลกำไร: ข้อตกลงนี้กำหนดว่า AGI จะเกิดขึ้นเมื่อระบบ AI ของ OpenAI สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างน้อย 1 แสนล้านดอลลาร์
- แตกต่างจากแนวคิดเดิม: แนวคิดเดิมของ AGI มุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการแก้ปัญหาและความฉลาดระดับมนุษย์ แต่ข้อตกลงนี้ใช้เกณฑ์ผลกำไร
- เป้าหมายระยะยาว: OpenAI ยังคงขาดทุนและคาดว่าจะไม่ทำกำไรประจำปีจนถึงปี 2029 ทำให้เป้าหมาย 1 แสนล้านดอลลาร์เป็นเป้าหมายระยะยาว
- การเข้าถึงเทคโนโลยี: Microsoft จะยังคงเข้าถึงเทคโนโลยีของ OpenAI ได้จนถึงปี 2030 ไม่ว่าจะบรรลุ AGI หรือไม่ก็ตาม
- การปรับโครงสร้างความสัมพันธ์: OpenAI พยายามที่จะปรับโครงสร้างความสัมพันธ์กับ Microsoft ซึ่งรวมถึงการเจรจาข้อตกลงบริการคลาวด์และสัดส่วนการถือหุ้นใหม่
- ความท้าทายทางกฎหมาย: การเปลี่ยน OpenAI เป็นองค์กรแสวงหากำไรกำลังเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายจาก Elon Musk ผู้ร่วมก่อตั้ง ซึ่งโต้แย้งว่าเป็นการเบี่ยงเบนจากพันธกิจเดิมของบริษัท
ภูมิหลังของข้อตกลง
- ความเข้าใจเดิม: ความร่วมมือระหว่าง Microsoft และ OpenAI เดิมทีเข้าใจว่า OpenAI จะสามารถยุติความสัมพันธ์พิเศษกับ Microsoft ได้เมื่อบรรลุ AGI
- การถกเถียงเรื่อง AGI: ความหมายของ AGI เป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกัน โดย OpenAI เคยกล่าวถึง AGI ว่าเป็นระบบที่สามารถแก้ปัญหาระดับโลกได้
- การลดความสำคัญของ AGI: Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ได้ลดความสำคัญของ AGI ลง โดยอธิบายว่าเทียบเท่ากับ "เพื่อนร่วมงานที่เป็นมนุษย์ทั่วไป"
- การเปลี่ยนโครงสร้าง: OpenAI กำลังเปลี่ยนจากองค์กรไม่แสวงหากำไรไปเป็นองค์กรแสวงหากำไร ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งกับ Microsoft เรื่องการควบคุมและการแบ่งปันรายได้
ประเด็นสำคัญและความขัดแย้ง
นิยามของ AGI
- ผลกำไร 1 แสนล้านดอลลาร์: ข้อตกลงกำหนดว่า AGI คือจุดที่ระบบ AI ของ OpenAI สร้างผลกำไรได้อย่างน้อย 1 แสนล้านดอลลาร์สำหรับนักลงทุนระยะแรก รวมถึง Microsoft
- ดุลพินิจของคณะกรรมการ: นิยามนี้ขึ้นอยู่กับ "ดุลพินิจที่สมเหตุสมผล" ของคณะกรรมการ OpenAI
- ความไม่เห็นด้วยเรื่องศักยภาพ: มีความไม่เห็นด้วยว่าเทคโนโลยีปัจจุบันมีความสามารถในการสร้างผลกำไรดังกล่าวได้หรือไม่
- การจำกัดผลตอบแทน: OpenAI ได้กำหนดเพดานผลตอบแทนของนักลงทุนเพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นกับเป้าหมายทางจริยธรรม
ข้อตกลงบริการคลาวด์
- ผู้ให้บริการคลาวด์แต่เพียงผู้เดียว: Microsoft เป็นผู้ให้บริการคลาวด์แต่เพียงผู้เดียวของ OpenAI และเป็นบริษัทเดียวที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายโมเดลของ OpenAI ให้กับลูกค้าคลาวด์
- ความไม่พอใจของ OpenAI: OpenAI ไม่พอใจกับข้อตกลงนี้ โดยเชื่อว่า Microsoft ไม่สามารถตอบสนองความต้องการเซิร์ฟเวอร์ได้ และการอนุญาตให้ผู้ให้บริการคลาวด์รายอื่นเข้าร่วมจะเพิ่มรายได้
- การสำรวจผู้ให้บริการอื่น: OpenAI ได้เริ่มสำรวจผู้ให้บริการคลาวด์ทางเลือก เช่น Oracle แม้ว่า Microsoft จะมีอำนาจยับยั้งข้อตกลงดังกล่าว
- ข้อกังวลด้านการต่อต้านการผูกขาด: Google ได้ขอให้หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ทบทวนและอาจยุติข้อตกลงบริการคลาวด์ระหว่าง Microsoft และ OpenAI โดยอ้างถึงข้อกังวลด้านการต่อต้านการผูกขาด
สัดส่วนการถือหุ้นและการปรับโครงสร้าง
- การเปลี่ยนเป็นบริษัทมหาชน: OpenAI กำลังปรับโครงสร้างเพื่อเป็นบริษัทมหาชน ซึ่งจะทำให้ผู้ถือหุ้นมีส่วนได้เสียโดยตรงในบริษัท
- สัดส่วนการถือหุ้นขององค์กรไม่แสวงหากำไร: องค์กรไม่แสวงหากำไรคาดว่าจะถือหุ้นอย่างน้อย 25% ในบริษัทแสวงหากำไร ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 4 หมื่นล้านดอลลาร์
- สัดส่วนการถือหุ้นของ Microsoft: สัดส่วนการถือหุ้นสุดท้ายของ Microsoft มีแนวโน้มที่จะอยู่ที่หรือสูงกว่าระดับนี้
- การแก้ไขภาระผูกพันทางกฎหมาย: การปรับโครงสร้างมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขภาระผูกพันทางกฎหมายขององค์กรไม่แสวงหากำไรและเพื่ออำนวยความสะดวกในการเสนอขายหุ้น IPO ที่อาจเกิดขึ้น
ความท้าทายทางกฎหมาย
- คดีความของ Elon Musk: Elon Musk ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ได้ยื่นฟ้องเพื่อป้องกันไม่ให้ OpenAI กลายเป็นองค์กรแสวงหากำไร โดยโต้แย้งว่าเป็นการละเมิดพันธกิจเดิมของบริษัท
- การสนับสนุนจาก Meta: Meta ได้สนับสนุนคดีความของ Musk โดยอ้างว่าการกระทำของ OpenAI อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อ Silicon Valley
แนวคิดหลัก
- AGI (ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป): ระดับ AI สมมติที่สามารถทำงานทางปัญญาใด ๆ ที่มนุษย์สามารถทำได้ ในบริบทนี้ กำหนดโดยเกณฑ์ผลกำไรที่เฉพาะเจาะจง
- บริษัทมหาชนเพื่อประโยชน์สาธารณะ: ประเภทขององค์กรแสวงหากำไรที่มีภาระผูกพันตามกฎหมายในการแสวงหาประโยชน์สาธารณะนอกเหนือจากการสร้างผลกำไร
- ผู้ให้บริการคลาวด์: บริษัทที่ให้บริการทรัพยากรคอมพิวเตอร์ เช่น เซิร์ฟเวอร์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ผ่านอินเทอร์เน็ต
- IPO (การเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก): กระบวนการเสนอขายหุ้นของบริษัทเอกชนต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก
ประเด็นเพิ่มเติม
- การเติบโตอย่างรวดเร็ว: การเติบโตอย่างรวดเร็วและการขยายตัวของ OpenAI ไปสู่ด้านต่างๆ เช่น ชิป AI, เครื่องมือค้นหา และหุ่นยนต์ ได้กระตุ้นความจำเป็นในการปรับโครงสร้าง
- การคาดการณ์รายได้: คาดการณ์ว่ารายได้ของ OpenAI จะสูงถึง 4 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ และ 1 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2029 โดยมี ChatGPT เป็นตัวขับเคลื่อนรายได้หลัก
- การแบ่งปันรายได้กับ Microsoft: ข้อตกลงระหว่าง OpenAI และ Microsoft รวมถึงส่วนแบ่งรายได้ 20% สำหรับ Microsoft และกำหนดเพดานผลกำไรของ Microsoft ไว้ที่ 9.2 แสนล้านดอลลาร์
- แรงกดดันด้านระยะเวลา: OpenAI กำลังเผชิญกับแรงกดดันให้ดำเนินการเปลี่ยนผ่านให้เสร็จสิ้นภายในสองปีเพื่อหลีกเลี่ยงการต้องชำระคืนนักลงทุน
- แผนการซื้อหุ้นคืน: OpenAI วางแผนที่จะซื้อหุ้นคืนของพนักงานหลังจากการเปลี่ยนผ่านไปสู่องค์กรแสวงหากำไร